Mazda RX-8 2012 สุดยอดรถสายพันธุ์สปอร์ต 2 ประตูใหม่จากมาสด้า ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ ขนาด 1.3 ลิตร 212 แรงม้า เกียร์ Paddle Shift 6 สปีด ที่ออกแบบภายนอกให้ออกมาดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เรื่องความแรงด้วยแบรนด์ของมาสด้าแล้ว จึงไว้วางใจได้เลยว่าแรงจริง และระบบความปลอดภัยก็ใส่มาเต็มที่ ภายในออกแบบเครื่องเสียงให้สามารถรองรับการเล่น CD ได้ถึง 6 แผ่น รองรับการเชื่อมต่อ USB และ Bluetooth ที่ทันสมัย
มาสด้า อาร์เอ็กซ์-8 2012 สายพันธุ์สปอร์ตตัวนี้ พรั่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกอัจฉริยะ ระบบช่วยเบรกเพื่อป้องกันการลื่นไถลของรถ ถุงลมนิรภัยที่ได้มาตรฐาน และประหยัดน้ำมันอีกด้วยครับ นอกจากจะสวยเด่นดีไซน์สปอร์ตแล้วยังประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
Mazda RX-8 2012 ตัวนี้เรื่องราคานั้นทางมาสด้ายังไม่ออกมาเปิดเผยครับ เราจึงไม่ทราบแน่ชัดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แต่คาดว่าภายในปีนี้คงทราบรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นครับ ใครที่สนใจตัวนี้อยู่ละก็รอดูกันไปก่อนนะครับ ถ้ามีข่าวมาอัพเดทเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ ผมจะรีบมาอัพเดทให้ทันทีเลยครับ
Sport Car
วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554
ฝันที่เป็นจริง Toyota Supra ใหม่วางจำหน่ายปี 2011
อีกไม่นานรถสปอร์ตจากแดนปลาดิบเริ่มระอุอีกครั้งเมื่อกระแสคนญี่ปุ่นยุคใหม่ต้องการรถแนวสปอร์ตมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ก่อนหน้านั้นรถแนวสปอร์ตแทบจะหมดสมัยตายจากญี่ปุ่นไปเป็นสิบปีเลย คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่กระแสนี้กำลังเกิด
แต่น่าแปลกใจที่กระแสต้องการรถแนวสปอร์ตกลับมาในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังเอาแน่เอานอนกันไมได้เลย การสร้างรถสปอร์ตเชิดหน้าชูตาแบรนด์ตนเองออกจะซุ่มเสี่ยงกันเสียหน่อย แต่ว่ากันว่าปี 2011 น่าเป็นปีที่บูมตลาดรถสปอร์ตได้แน่นอนด้วยจังหวะเศรษฐกิจที่เริ่มโงหัวขึ้น
Toyota มีแผนปล่อยรถสปอร์ตครบทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับจับต้องได้ยาก (Exotic Car) ภายใน 3-4 ปีนี้ ไม่น่าแปลกใจว่าค่ายรถที่มีทุนหนามากขนาดนี้จะปล่อยรถถี่ได้ไม่เหมือน Honda และ Nissan ที่จะต้องชะลอโครงการรถสปอร์ตบางรุ่นไปก่อน
ไฮไลต์เด็ดดคงอยู่ที่รถสปอร์ตที่จะมาสืบสานตำนาน Supra ดีไซน์จะพัฒนาจากรถต้นแบบ FT-HS Concept ภาระกิจสำคัญคือช่วงชิงความโดดเด่นจาก Nissan ที่ปล่อย GT-R โลดแล่นตลาดมานาน 2 ปีแล้ว Toyota จะต้องอดทนรออีก 2 ปีครึ่งเลยทีเดียว
รอนานขนาดนี้มีไม้ตายสำคัญตรงไหน?
Successor of Supra จะเป็นรถซูเปอร์คาร์ไฮบริดพลังแรงสูงด้วยเครื่องยนต์ที่นำมาจาก Lexus GS450h 3.5 ลิตร V6 เวอร์ชันเดิมทำได้ 268 แรงม้า แต่ถ้าวางในรถคันนี้คาดการณ์ว่าน่าจะทำได้มากกว่า 400 แรงม้าเลยทีเดียว นี่คือเกมส์รุกตลาดซูเปอร์คาร์เบียดที่นั่งชิงกับ Nissan GT-R ให้จงได้
รายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก
มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเปิดตัวในงาน โตเกียวมอเตอร์โชว์ประจำปี 2011
แต่น่าแปลกใจที่กระแสต้องการรถแนวสปอร์ตกลับมาในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังเอาแน่เอานอนกันไมได้เลย การสร้างรถสปอร์ตเชิดหน้าชูตาแบรนด์ตนเองออกจะซุ่มเสี่ยงกันเสียหน่อย แต่ว่ากันว่าปี 2011 น่าเป็นปีที่บูมตลาดรถสปอร์ตได้แน่นอนด้วยจังหวะเศรษฐกิจที่เริ่มโงหัวขึ้น
Toyota มีแผนปล่อยรถสปอร์ตครบทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับจับต้องได้ยาก (Exotic Car) ภายใน 3-4 ปีนี้ ไม่น่าแปลกใจว่าค่ายรถที่มีทุนหนามากขนาดนี้จะปล่อยรถถี่ได้ไม่เหมือน Honda และ Nissan ที่จะต้องชะลอโครงการรถสปอร์ตบางรุ่นไปก่อน
ไฮไลต์เด็ดดคงอยู่ที่รถสปอร์ตที่จะมาสืบสานตำนาน Supra ดีไซน์จะพัฒนาจากรถต้นแบบ FT-HS Concept ภาระกิจสำคัญคือช่วงชิงความโดดเด่นจาก Nissan ที่ปล่อย GT-R โลดแล่นตลาดมานาน 2 ปีแล้ว Toyota จะต้องอดทนรออีก 2 ปีครึ่งเลยทีเดียว
รอนานขนาดนี้มีไม้ตายสำคัญตรงไหน?
Successor of Supra จะเป็นรถซูเปอร์คาร์ไฮบริดพลังแรงสูงด้วยเครื่องยนต์ที่นำมาจาก Lexus GS450h 3.5 ลิตร V6 เวอร์ชันเดิมทำได้ 268 แรงม้า แต่ถ้าวางในรถคันนี้คาดการณ์ว่าน่าจะทำได้มากกว่า 400 แรงม้าเลยทีเดียว นี่คือเกมส์รุกตลาดซูเปอร์คาร์เบียดที่นั่งชิงกับ Nissan GT-R ให้จงได้
รายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก
มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเปิดตัวในงาน โตเกียวมอเตอร์โชว์ประจำปี 2011
วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554
Ferrarri FF 2011 รถเฟอร์รารี่สปอร์ต 4 ที่นั่งใหม่เปิดตัวในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011
Ferrarri FF 2011 รถสปอร์ต 4 ที่นั่งใหม่
งานแสดงรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน โลก เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 ได้เปิดตัวรถยนต์ Ferrarri FF 2011 รถสปอร์ต 4 ที่นั่งใหม่ โดยได้แข่งขันการทำตลาดอย่างดุเดือดแข่งกับค่าย Lambroghini ที่ทั้งคู่ต่างก็มีหมัดเด็ด แต่ดูเหมือนค่ายม้าลำพองจะของชิงไฟในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่สายตาชาวโลก เมื่อวานนี้ที่เมือง Mananello บ้านเกิดของค่ายรถยนต์รายนี้
Ferrari แนะนำ Ferrari FF รถ รุ่นใหม่จะขึ้นโชว์อย่างเป็นทางการบนเวทีในงานเจนีวา ด้วยการฟูมฟักมาอย่างยาวนานถึงรถสปอร์ตคันใหม่ ที่งานนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในความเป็นตัวตนของค่ายรถยนต์รายนี้
ตัวรถมาพร้อมขนาดมิติตัวถังที่กว้าง 1953 มิลลิเมตร ยาว 4907 มิลลเมตร และสูง 1379 มิลลเมตร ที่มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1790 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อได้รับการขับเคลื่อนผ่านขุมพลัง V12 และ ม้าแต่ละตัวจะรับน้ำหนักเพียง 2.7 กิโลกรัมต่อ 1 แรงม้า ทำให้พุ่งทะยานได้อย่างมั่นใจ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรในเวลาเพียง 3.7 วินาที ส่วนความเร็วปลายถ้ากล้าเหยียบมันก็ไปได้เร็วถึง 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
เรื่องความแรงต้องมากับความไว้วางใจได้ และเจ้าม้าศึกตัวนี้จากเมืองมาลาเนลโล่ ก็มีดีกว่าที่คิดด้วยการบาลานซ์น้ำหนักตั้งแต่กำเนิด ที่ 47% ทางด้านหน้า และ 53% ทางด้านหลัง ที่ควบมาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัวอิเล็กทรอนิกส์ และยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อช่วยเสริมความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ยามขับขี่ในทุกเส้นทาง
ไม่เพียงเท่านี้ Ferrari FF ยัง ได้รับการพัฒนาจนก้าวไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี magnetorheological damping system ที่ให้การเกาะถนนเป็นเลิศในทุกเส้นทาง ในขณะที่ม้ากว่า 660 ตัวนั้น เชื่องสนิท เมื่อเจอชุดเบรคคาร์บอน-เซรามิคจาก Brembo ที่เป็นสุดยอดเทคโนโลยีล่าสุดในการห้ามล้อ
ในเรื่องการประหยัดน้ำมันนั้นหายห่วงเพราะรถระดับนี้กินสะบัดที่ 6.4 กิโลเมตรต่อลิตร ถือเป็นเรื่องธรรมดา ในขณะที่ การปล่อยไอเสียนั้นทำอยู่ที่ 360 กรัม / กิโลเมตร ที่ทำได้ไม่เลวนัก
ด้านในห้องโดยสารแม้จะเป็น Exotic Car แต่ก็หายห่วง ด้วยเฟอร์รารี่อ้างว่า รถคันนี้สามารถรองรับความสะดวกสบายระดับผู้โดยสาร 4 คนอย่างไม่ยากเย็น พร้อมสัมภาระของพวกเขาที่จะสามารถจุได้ในพื้นที่กว่า 450 ลิตร และสามารถขยายเป็น 800ลิตรได้หากต้องการ
Ferrari FF นับ เป็นไอเดียใหม่ล่าสุดในสุดยอดยนตรกรรมจากค่ายรถยนต์รายนี้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และนี่อาจเป็นรถอีกคันที่เศรษฐีอยากได้ ส่วนราคายังไม่มีการประกาศจนกว่างานเจนีวา
NISSAN 200 SX
จัดได้ว่า Nissan รุ่น คลาสสิค 200 SX กระแสแรงในหมู่นักแข่งรถจริงๆ ด้วยความที่เจ้ารถรุ่นนี้ มีคุณสมบัติพิเศษหลายๆ ประการ ทั้ง รูปทรงลู่ลมได้เปรียบในเรื่องของอากาศพลศาสตร์ เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดกำลังดีกระทัดรัด ห้องเครื่องกว้างพอควร สามารถวางเครื่อง 6 เม็ดได้โดยไม่ต้องทุบตัวรถ จึงทำให้คนส่วนใหญ่มักนำรถบอดี้นี้ไปทำเป็นตัวรถแข่ง ในรูปแบบของควอเตอร์ไมล์ และการแข่งขันแบบดริฟติ้ง เรียกได้ว่าชื่อของ Nissan 200 SX นั้น ยังเฟื่องฟูอยู่ไม่จางหาย เหมือนช่วงที่เพิ่งเปิดตัวกันใหม่ๆ เลยทีเดียวก็ว่าได้
สำหรับรถยนต์ Nissan รุ่น คลาสสิค 200 SX นั้น ดีเจสุดเท่ห์ เจได - ไพศาล ลิ้มจินดานุวัฒน์ แห่งคลื่น ฮอต 91.5 ซ่าส์โดนทีน บอกว่า "มันเป็นรถสปอร์ตที่เท่ห์ซะเหลือเกิน... ผมบ้ากับรถคันนี้มากครับ!"เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ พร้อมบอกอีกว่า ที่ได้เป็นเจ้าของรถ Nissan 200 SX มันเป็นเรื่อง "โชคชะตา" เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะความจริงรถคันแรกในชีวิตของเค้าตอนวัยรุ่นอายุ 18 ปีนั้น น่าจะเป็นรถ Accord ปี1994 เนื่องจากคุณพ่อกำลังจะซื้อให้ตอนเข้ามหาวิทยาลัยปี1 แต่ใจเจ้ากรรมอยากได้รถสปอร์ตที่แรง และดูเท่ห์ไว้อวดสาวๆ ซึ่ง Nissan 200 SX นี่แหละ ตอบโจทย์ที่เค้าต้องการได้หมดทุกข้อเลย
"ผมอ่ะ ชอบรถสปอร์ตตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว แต่ผมไม่กล้าขอพ่อ จนจบม.6 และจะเข้ามหาลัยปี1 แล้วทีนี้พ่อผมเห็นว่าจากบ้านไปมหาวิทยาลัยมันไกล ก็เลยจะซื้อรถ Accord ตัวธรรมดาไว้ให้ใช้ แล้วผมชอบรถที่มี moon roof, sunroof ผมก็พยายามหาตัวนอก ผมก็ตามดู แต่ว่าหาไม่ได้ซักที พอดีมีลูกเพื่อนพ่อเค้าจะขาย Prelude พ่อก็ถามผมว่า เอามั้ย ผมก็ Prelude โห ชอบอ่ะ แต่มันไม่มี Turbo ความจริงผมชอบ RX-7 มากกว่า แต่มันแพง เป็นล้านนะแพงไป ไม่มีตังค์ซื้อ...ด้วยความที่ผมชอบรถที่มี Turbo อะไรอน่างนี้ ก็บอกพ่อว่าขอซื้อ Nissan 200 SX ละกัน เพราะเป็นรถ Turbo และราคามันก็โอเค สเป็คโอเค ขับหลังด้วย มันขับสนุกดี ผมก็แค่พูดเล่นๆ พ่อก็บอกไปดูมา ก็ไปเปิดตามหนังสือ แล้วก็ไปโทร. ก็ควานหาอยู่ประมาณ 6 เดือน แล้วผมก็ใช้วิธีเปิดหนังสือรถมือสอง เปิดดูแต่ไม่ได้ซื้อ ก็ไปจดเบอร์มา แล้วก็วิ่งออกมาข้างนอกร้านแล้วก็โทร.ถาม ทำอย่างนั้นอยู่นาน กว่าจะเจอรถ ก็ใช้เวลานานเหมือนกันที่ได้ Nissan 200 SX มา"
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554
Honda CR-Z Mugen RR Concept : เสริมเขี้ยวเล็บให้สปอร์ตไฮบริด
ดูเหมือนว่าช่วงนี้ฮอนด้า และสำนักแต่งอย่างมูเกนดูจะให้ความสำคัญกับสปอร์ตไฮบริดรุ่น CR-Z เหลือเกิน เพราะทิ้งระยะจากการเปิดตัวเวอร์ชันตัวแต่งจากมูเกนมาได้ไม่นาน ก็มีของใหม่ออกมายั่วใจแฟนๆ กันอีกแล้ว กับเวอร์ชัน Mugen RR Concept ซึ่งสาวกของฮอนด้าคงทราบดีถึงความพิเศษที่เสริมเข้ามา
ที่บอกว่าพิเศษก็เพราะก่อนหน้านี้มูเกนเคยจับเอาฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์เวอร์ชันญี่ปุ่นในรหัส FD2 มาเพิ่มสีสันในชื่อ Mugen RR และผลิตออกขายในจำนวนจำกัด พร้อมสมรรถนะที่เหนือว่าไทป์ อาร์รุ่นปกติทั้งในแง่ของตัวเลขแรงม้า และน้ำหนักของตัวรถที่เบาขึ้น ดังนั้น เมื่อแฟนๆ ของฮอนด้าได้เห็นอย่างนี้แล้วก็เลยพาลนึกเอาว่า มูเกนกำลังจะทำอะไรบางอย่างกับ CR-Z เหมือนกับที่ทำกับซีวิค ไทป์ อาร์หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม มูเกนออกตัวเอาไว้ก่อนเลยว่านี่คือ แค่ต้นแบบสำหรับจัดแสดงยังไม่ได้คิดที่จะมีการผลิตขายเป็นเรื่องเป็นราว เหมือนกับคันที่นำออกมาโชว์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นแค่การเปิดเผยให้เห็นถึงสมรรถนะของ CR-Z หลังการโมดิฟายและเป็นผลงานแบบทำโชว์เพื่อนำออกแล่นในรายการ FOS หรือ Festival of Speed ที่ Goodwood ประเทศอังกฤษ โดยทั้งหมดเป็นผลงานของ Mugen Europe ในอังกฤษ
สำหรับคันนี้เป็นผลงานของมูเกนในญี่ปุ่น เพื่อแสดงให้เห็นแนวทางของการออกแบบและการเพิ่มขีดความสามารถให้กับรถสปอร์ตไฮบริดรุ่น CR-Z ว่าเป็นอะไรได้มากกว่าความเร้าใจบนความประหยัด เพราะทุกรายละเอียดได้รับการอัพเกรดเพิ่มทั้งความสวยให้กับภายใน-ภายนอก สมรรถนะในการขับเคลื่อน และความคล่องตัวในการขับขี่
ในเรื่องของภาพลักษณ์ไม่ต้องห่วงถึงความสปอร์ต เพราะเป้าหมายของมูเกนสำหรับเวอร์ชัน RR คือ การลดน้ำหนักและเพิ่มความพิเศษด้วยการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นวัสดุหลักในการผลิตชิ้นส่วนตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า-หลัง และประตูทั้ง 2 บาน รวมถึงชุดสเกิร์ตรอบคัน ขณะที่ใต้ท้องรถมีการใช้วัสดุประเภทนี้ในการผลิตแผ่นปิดด้านล่างเพื่อช่วยลดสภาพลมตีใต้ท้องรถขณะแล่นด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้น ยังเพิ่มความสปอร์ตด้วยการนำคาร์บอนไฟเบอร์ไปใช้ในการตกแต่งภายในห้องโดยสารอีกด้วย
ส่วนความสวยงามของตัวรถในแง่อื่นๆ ก็เช่น ล้อแม็กวงโตขนาด 18 นิ้วแบบ Forged พร้อมกับดิสเบรกขนาดใหญ่ และคาลิเปอร์แบบ 4 พอต ปลายท่อไอเสียแบบคู่ สีส้มแบบพิเศษที่เรียกว่า Valencia Orange Pearl ซึ่งถูกนำมาใช้ตกแต่งสีสันทั้งภายนอกและภายในตัวรถ
ขณะที่ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ตที่หุ้มด้วยวัสดุอย่างอัลแคนทาราผสมกับหนัง และเพิ่มความเร้าใจด้วยหน้าจอ Information Display สำหรับแสดงผลการทำงานของเครื่องยนต์และช่วงล่าง รวมถึงยังสามารถบันทึกเวลาต่อรอบได้อีกด้วย โดยจะทำงานร่วมกับ GPS ในการระบุพิกัดของตัวสนามเพื่อใช้ในการจับเวลาเก็บเป็นสถิติ แถมตัวระบบถูกออกแบบให้สามารถเรียนรู้สภาพของสนามได้อีกด้วยหลังจากที่ผ่านการแล่นเก็บข้อมูลมา 2 รอบ
อย่างไรก็ตาม มูเกนไม่ได้เปิดเผยถึงตัวเลขของเครื่องยนต์ไฮบริดบล็อกนี้ว่าจะแรงเร้าใจจากรุ่นมาตรฐานมากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องของการผลิตก็ยังไม่ต้องหวังกันในตอนนี้ เพราะว่ามูเกนออกมายืนยันแล้วว่า ผลิตโชว์เฉยๆ ยังไม่คิดจะผลิตขายจริง
ที่บอกว่าพิเศษก็เพราะก่อนหน้านี้มูเกนเคยจับเอาฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์เวอร์ชันญี่ปุ่นในรหัส FD2 มาเพิ่มสีสันในชื่อ Mugen RR และผลิตออกขายในจำนวนจำกัด พร้อมสมรรถนะที่เหนือว่าไทป์ อาร์รุ่นปกติทั้งในแง่ของตัวเลขแรงม้า และน้ำหนักของตัวรถที่เบาขึ้น ดังนั้น เมื่อแฟนๆ ของฮอนด้าได้เห็นอย่างนี้แล้วก็เลยพาลนึกเอาว่า มูเกนกำลังจะทำอะไรบางอย่างกับ CR-Z เหมือนกับที่ทำกับซีวิค ไทป์ อาร์หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม มูเกนออกตัวเอาไว้ก่อนเลยว่านี่คือ แค่ต้นแบบสำหรับจัดแสดงยังไม่ได้คิดที่จะมีการผลิตขายเป็นเรื่องเป็นราว เหมือนกับคันที่นำออกมาโชว์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นแค่การเปิดเผยให้เห็นถึงสมรรถนะของ CR-Z หลังการโมดิฟายและเป็นผลงานแบบทำโชว์เพื่อนำออกแล่นในรายการ FOS หรือ Festival of Speed ที่ Goodwood ประเทศอังกฤษ โดยทั้งหมดเป็นผลงานของ Mugen Europe ในอังกฤษ
สำหรับคันนี้เป็นผลงานของมูเกนในญี่ปุ่น เพื่อแสดงให้เห็นแนวทางของการออกแบบและการเพิ่มขีดความสามารถให้กับรถสปอร์ตไฮบริดรุ่น CR-Z ว่าเป็นอะไรได้มากกว่าความเร้าใจบนความประหยัด เพราะทุกรายละเอียดได้รับการอัพเกรดเพิ่มทั้งความสวยให้กับภายใน-ภายนอก สมรรถนะในการขับเคลื่อน และความคล่องตัวในการขับขี่
ในเรื่องของภาพลักษณ์ไม่ต้องห่วงถึงความสปอร์ต เพราะเป้าหมายของมูเกนสำหรับเวอร์ชัน RR คือ การลดน้ำหนักและเพิ่มความพิเศษด้วยการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นวัสดุหลักในการผลิตชิ้นส่วนตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า-หลัง และประตูทั้ง 2 บาน รวมถึงชุดสเกิร์ตรอบคัน ขณะที่ใต้ท้องรถมีการใช้วัสดุประเภทนี้ในการผลิตแผ่นปิดด้านล่างเพื่อช่วยลดสภาพลมตีใต้ท้องรถขณะแล่นด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้น ยังเพิ่มความสปอร์ตด้วยการนำคาร์บอนไฟเบอร์ไปใช้ในการตกแต่งภายในห้องโดยสารอีกด้วย
ส่วนความสวยงามของตัวรถในแง่อื่นๆ ก็เช่น ล้อแม็กวงโตขนาด 18 นิ้วแบบ Forged พร้อมกับดิสเบรกขนาดใหญ่ และคาลิเปอร์แบบ 4 พอต ปลายท่อไอเสียแบบคู่ สีส้มแบบพิเศษที่เรียกว่า Valencia Orange Pearl ซึ่งถูกนำมาใช้ตกแต่งสีสันทั้งภายนอกและภายในตัวรถ
ขณะที่ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ตที่หุ้มด้วยวัสดุอย่างอัลแคนทาราผสมกับหนัง และเพิ่มความเร้าใจด้วยหน้าจอ Information Display สำหรับแสดงผลการทำงานของเครื่องยนต์และช่วงล่าง รวมถึงยังสามารถบันทึกเวลาต่อรอบได้อีกด้วย โดยจะทำงานร่วมกับ GPS ในการระบุพิกัดของตัวสนามเพื่อใช้ในการจับเวลาเก็บเป็นสถิติ แถมตัวระบบถูกออกแบบให้สามารถเรียนรู้สภาพของสนามได้อีกด้วยหลังจากที่ผ่านการแล่นเก็บข้อมูลมา 2 รอบ
อย่างไรก็ตาม มูเกนไม่ได้เปิดเผยถึงตัวเลขของเครื่องยนต์ไฮบริดบล็อกนี้ว่าจะแรงเร้าใจจากรุ่นมาตรฐานมากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องของการผลิตก็ยังไม่ต้องหวังกันในตอนนี้ เพราะว่ามูเกนออกมายืนยันแล้วว่า ผลิตโชว์เฉยๆ ยังไม่คิดจะผลิตขายจริง
วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554
Honda Civic Type R 2011 เวอร์ชั่นยุโรป บุกญี่ปุ่น
สาวก Civic Type R ฟังแล้วอาจจะหูผึ่งว่า Honda ยังไม่ตัดหางปล่อยวัดรถแฮทช์สุดฮ็อตรุ่นนี้ แต่ Honda Civic Type R รุ่นปี 2011 ที่เห็นอยู่นี้ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนใจของ Honda ในการคืนชีพให้กับ Civic Type R เวอร์ชั่นยุโรปแต่อย่างใดหลังจากที่ได้ประกาศเลิกการผลิตไปเมื่อไม่กี่เดือน ก่อนหน้านี้ด้วยสาเหตุที่เครื่องยนต์ VTEC 2.0 ลิตร ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยไอพิษ Euro 4 โดย Civic Type R รุ่นปี 2011 นี้จะเป็น Type R ล็อตสุดท้ายจากอังกฤษที่จะมีจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเพียง 1,500 คันเท่านั้น หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้นำเข้ามาขายแล้วถึง 1,850 คัน ชนิดที่เรียกว่าผลิตออกมาไม่พอขาย
ความใหม่ของ Honda Civic Type R รุ่นนี้คือการมีสีดำมุก Crytal Black Pearl ให้เลือก มีการใช้ฝาปิดถังน้ำมันแบบใหม่ และแผ่นเหล็กที่จารึกหมายเลขของรถแต่ละคัน โดยราคาขายในญี่ปุ่นจะเริ่มต้นที่ 3 ล้านเยน ซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษีในประเทศญี่ปุ่นแล้ว และคาดว่าคงขายดิบขายดีเหมือนล็อตก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย!



วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554
Nissan GT-R R35 Ebbrezza-R Sports ร้อนแรงเป็นไฟ ที่โตเกียวโดย Tommy Kaira
ที่ผ่านมาเห็นมีแต่รถแต่งเล็กๆสำหรับสำนักแต่ง Tommy Kaira แต่ล่าสุดในงาน Tokyo Auto Salon สำนักรักแต่งรถญี่ปุ่นแห่งนี้ได้เปิดตัวชุดแต่ง Ebbrezza-R Sports สำหรับสุดยอดรถอย่าง Nissan GT-R R35 ที่ต้องบอกว่าเตะตาแม้ว่าจะเห็นจากระยะไกล โปรเจ็กท์นี้เป็นการปรับแต่งทั้งรูปโฉมและสมรรถนะ โดยภายนอก Tommy Kaira ใช้แอโรพาร์ทแต่งลายด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ประกอบด้วย กันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมลิปสปอยเลอร์ สเกิร์ตข้าง ส่วนขยายคิ้วล้อหลัง ปีกหลัง และ diffuser หลังที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมอันเดอร์สปอยเลอร์
นอกเหนือจากแอโรพาร์ทที่กล่าวไปแล้ว ชุดแต่งโฉมของ Tommy Kaira ยังรวมถึงล้ออัลลอยก้านถี่ขอบ 20 นิ้วชุดใหม่ที่หุ้มด้วยยาง P-Zero ของ Pirelli ขนาด 255/40 ZR20 สำหรับล้อหน้่าและขนาด 285/35 ZR20 สำหรับล้อหลัง
สำหรับภายในมีการตกแต่งด้วยวัสดุอัลคันทาร่า และหนังปักมือสีแดง burgundy ตะเข็บสีขาว ส่วนเบาะที่นั่งก็ใช้ของสุดฮิตอย่าง Recaro พรมรองพื้นลายพิเศษ นอกจากนั้นยังมีการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แต่งส่วนต่างๆภายในรถ
การแต่งสมรรถนะของ Tommy Kaira มีไม่มากนักคือ มีการใช้ระบบไอเสียสไตล์สปอร์ทไทเทเนี่ยม เบรคสมรรถนะสูง และระบบกันสะเทือนสไตล์สปอร์ทครับ แค่นี้ก็เหลือรับประทานแล้ว! ส่วนราคาชุดแต่งยังไม่มีการเปิดเผยในช่วงนี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)